หน้าเว็บ

07 สิงหาคม 2554

เราเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่ออายุมากขึ้น ตำแหน่งใหญ่ขึ้น


ต่างรู้ตัวว่าต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดและเจริญเติบโต แต่เพราะอดีตที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว สิ่งที่เคยฝ่าฟันมา ประสบการณ์ที่สร้างสมมานมนานกว่าจะสำเร็จถึงขั้นนี้ มันกลายเป็นแสงอันเจิดจ้าในใจ จนทำให้ตาพร่ามัว ยังคิดว่าตนเองเป็นที่ยอมรับและต้องการของสังคมหรือองค์กรต่อไป
ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าจะเปลี่ยนไปในทางบวกหรือลบเท่านั้น ลองดูว่าแท้ที่จริงแล้วควรเป็นแบบไหน?
 
มีคนสนิท คนที่ไม่อยากสนิท หรือ สามารถใช้คนทุกคนอย่างคนสนิทมากขึ้น
เลือกที่รักมักที่ชัง หรือ มีความรักความเมตตาให้ทุกผู้คนมากขึ้น
มีอารมณ์รุนแรง หรือ เยือกเย็นสงบมากขึ้น
นินทา หรือ เผชิญหน้าให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างสร้งสรรค์มากขึ้น
ยึดหลักกู หรือ หลักการมากขึ้น
กล่าวโทษผู้อื่น หรือ รับผิดชอบต่อสิ่งผิดพลาดล้มเหลวมากขึ้น
เห็นแก่หน้า ลูบหน้าปะจมูก หลายมาตรฐาน หรือ ยึดมั่นในหลักการยุติธรรมมากขึ้น
โหยหาอำนาจ หรือ กระจายอำนาจมากขึ้น
คิดถึงความรุ่งเรืองความสำเร็จในอดีต หรือ คิดถึงเรื่องที่ต้องทำให้สำเร็จในอนาคตมากขึ้น
ครอบครัวแตกแยก หรือ สุขสันติ์มากขึ้น
ใจน้อยยิ่งขึ้น หรือ เข้าอกเข้าใจผู้คนมากขึ้น
ฆ่าคน ทำลายคน หรือ ปั้นคน สร้างคนได้มากขึ้น
ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเก่งขึ้น หรือ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
มีผู้คนเกรงขาม เกรงกลัว หรือ เคารพศรัทธามากขึ้น
มีเรื่องที่ต้องละอายใจ หรือ มีเรื่องที่ภาคภูมิใจกันแน่
ยอมแพ้ ยอมจำนนง่ายขึ้น หรือ มีพลังมุ่งหน้าฝ่าฟันมากขึ้น
อ้างเหตุผลสนับสนุนความผิดพลาดล้มเหลวได้เก่งและน่าเชื่อถือมากขึ้น หรือ ยอมรับ ค้นหาหนทาง และลงมือปรับปรุงแก้ไขได้เก่งกาจขึ้น
ทะเลาะขัดแย้งกับผู้คน หรือ สามารถผสานพลังได้มากขึ้น
ใช้อำนาจ กรอบความคิดของตนตัดสินผู้คน หรือ ยอมรับความแตกต่างและสามารถใช้ความแตกต่างให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น
ดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง ยึดแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ หรือ ฟังและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น พร้อมทั้งใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น
ทำให้ผู้คนรู้สึกด้อยค่าได้อย่างฉกาจฉกรร หรือ ทำให้คนได้ภาคภูมิใจในตนเองและดึงศักยภาพของเขาออกมาใช้ได้มากขึ้น
ฯลฯ
เวลาล่วงเลยไปไม่อาจหวนคืน เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่สามารถกำหนดอนาคตได้ (บ้าง) ด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่เพียงคอยโชคชะตาเทวดาฟ้าดินกำหนด

ไม่มีความคิดเห็น: