หน้าเว็บ

22 กันยายน 2553

เทพสยบมาร 1

"ข้างบนก็อัดลงมา ข้างล่างก็แทงข้างหลัง ระดับเดียวกันก็เจาะยาง” เคยเจอไหมกับเหตุการณ์แบบนี้ โดยทั้งสามระดับนี้เป็นพันธมิตรกัน รุมโจมตีเรายับเยินเสียสุนัขไปเลย แล้วเราจะทำฉันใด?
สิ่งที่คนทั่วไปจะทำก็คือ ไม่สู่ก็หนี แต่... มีทางเลือกที่ 3 ไหม!!!
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ ไม่ยอมจำนน หลายคนที่ไม่ยอมทำอะไรนอกจากหาที่ระบายปรับทุกข์ บางคนก็ทำใจว่ากำลังใช้กรรม พร้อมกับยังมีหน้าไปสงสารเขาอีกว่าเขากำลังทำกรรมชั่วซึ่งจะต้องได้รับผล กรรมต่อไป และบางคนกำลังรอว่าจะมีพระโพธิสัตว์มาโปรดให้เขาได้กลับตัวกลับใจ ฯลฯ ขอให้พิจารณาดีๆ ว่า ผู้ถูกกระทำที่กล่าวมานี้กำลังทำอะไร พิจารณาจริงๆ แล้วคือเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ไอ้ครั้นที่จะไม่ทำอะไรก็เกิดความไม่ภาคภูมิใจในตนเอง ก็เลยคิดสงสาร คิดให้เขากลับใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นเข้ามาแก้ไขสถานการณ์นี้ ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ใช่ไหม? มีอะไรมากกว่านี้ไหม?


บางคนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ตรงมาตรงไปอย่างน่ายกย่อง แต่ก็ต้องมาตายในสถานการณ์แบบนี้ เป็นคนดีที่ไม่มีชั้นเชิงตกเป็นเหยื่อให้พวกมารทั้งหลายมีประสบการณ์และพละ กำลังในการทำลายล้างมากยิ่งขึ้น เป็นเชื้อไฟให้ลุกโหมกระหน่ำเข้าใส่คนดีคนซื่อคนต่อๆ ไป เข้าทำนองที่ว่าชาติบ้านเมือง องค์กร หน่วยงาน ครอบครัว(ด้วยไหมนี่) ตกต่ำเพราะคนดียอมให้คนเลวมีอำนาจ “ความชั่วจะมีชัยชนะได้เพราะคนดีไม่ยอมขัดขวาง (เอ็ดมันด์ เบิร์ก)” แล้วคนดีเหล่านี้มีความสุขความสบายใจจริงหรือ ทำไมต้องยอมเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป
การจะเป็นมือปราบมาร ก็ต้องรู้ความเป็นมาร รู้เรารู้เขารบร้อยครั้งชนะร้อยคราไง แต่ระวังนะ รู้ซึ้งถึงจิตใจมารมากๆ เข้าจะกลายเป็นมารเสียเอง จิตใจต้องเข้มแข็งผ่องแผ้ว เข้าสู่สัจธรรมและหลักการที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความรักความเมตตาที่ปรารถนาจะเปลี่ยนมารให้กลายเป็นเทพ แม้จะเปลี่ยนไม่ได้ก็ทำให้มารได้สำนึกว่า คนดีๆ ไม่ได้เป็นเหยื่ออันโอชะ โออิชิ อูมามิ อุไม่ เสมอไป
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าการต่อสู้นี้จะใช้ความรุนแรงตอบโต้แบบบู้ล้าง ผลาญ แม้ว่าในช่วงชีวิตที่ผ่านมาอาจใช้วิชามารปราบมารมาบ้าง ตอบโต้อย่างรุนแรงมาบ้าง ก็เป็นประสบการณ์แห่งการต่อสู้เบื้องต้นของคนอินทรีย์ยังไม่แก่กล้า ทำให้มารต้องเสียท่าเป็นบ้าเป็นหลังเสียผู้เสียคนหมดอนาคตไป ประสบการณ์เหล่านั้นสอนให้เราเห็นว่าการต่อสู้แบบนี้ยังเป็นการทำลาย เบื้องต้นดูเหมือนจะสะใจ แต่มันทำให้เราเข้าใกล้ความเป็นมารเข้าไปทุกที รู้ตัวแล้วต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ ใช้วิธีการเปลี่ยนมารมาเป็นเทพ เปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตร ยากไหม?
ไม่ยากหรอกท่าน เริ่มจากการปรับกรอบความคิดก่อน อย่ายอมเป็นเหยื่อ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก แต่ต้องใช้ปัญญา การจะเกิดปัญญาต้องอาศัยสมาธิ และศีล และต้องเข้าใจว่าปัญญาจะไม่เกิดเมื่อเรามีอารมณ์ ฝึกสติฝึกสมาธิก่อนนะ พิสูจน์ตนให้ได้ว่าไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะมาปั่นหัวเราได้ (มีแต่เราที่จะปั่นหัวคนอื่น – แต่เราไม่ปั่นนะ) เราสามารถใช้ปัญญาเข้าแก้ปัญหาโดยปราศจากซึ่งอารมร์โกรธ ขุ่นเคือง มุ่งร้าย (ไม่ต้อง 10% หรอก แค่รู้ตัวรู้ตน แล้วอารมณ์เหล่านั้นจะเบาบางลงเอง ฝึกไปเรื่อยๆ)
อีกประการหนึ่ง มีคนถามว่า แล้วมาร 3 ประเภทนี้จะจัดการประเภทใดก่อน ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ก็แค่มารไหนมาก่อนก็จัดการมารนั้นไปทันที (จากการฝึกฝนอินทรีย์ที่แก่กล้าเพียงพอ)
มาดูกันนะ ประสบการณ์ปราบมาร - ครั้งหน้าครับ!!!

ไม่มีความคิดเห็น: