ทำบุญแบบใช้ความคิด

อาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้ ก็ยังคงเหมือนๆ เดิม วัดต้องหาที่เก็บหลอดไฟและเครื่องสังฆทานกันอีกแล้ว

ทำไมคนชอบเอาหลอดไฟไปทำบุญ ทำไมต้องถวายสังฆทาน (บางที่ยังมีนะ ที่เอาเทียนพรรษาไปถวายให้วัดที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทียนพรรษา)

เพราะเราได้รับการสอนมาแบบไม่เต็มหรือเปล่าว่าบุญนั้นเกิดขึ้นได้ 3 ระดับ คือ ทาน ศีล ภาวนา

จะให้ลึกก็ต้องว่า เราถูกสอนมาไม่ให้คิดมาก เชื่อแล้วก็ทำตามๆ กันไป ไม่ต้องหาเหตุผล ไม่ต้องเข้าใจจุดประสงค์ หรือเปล่า

จุดประสงค์ในการถวายเทียนพรรษาคืออะไร ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป ยังคงต้องใช้เทียนพรรษาหรือไม่

ส่วนสังฆทาน ก็อาจจำเป็น แต่พระท่านมีจนล้นวัดแล้วครับ พระท่านจึงไคเซ็นให้จัดชุดสังฆทานไว้ในวัดให้ญาติโยมมาซื้อที่วัดถวายเลย ก็มีเสียงอีกว่า อย่าใช้สังฆทานเวียนนะ ไม่ได้บุญ - เป็นซะงั้น รู้ดีกว่าพระอีก

การทำบุญ ความจริงแล้วก็เป็นแค่วัตถุทาน ก็ถือว่ามีความจำเป็น แต่ทำกันเหมาะสมไหม วัดมีหลอดไฟสะสมมากมาย แต่ไม่มีค่าไฟ มีประโยชน์อะไร

มีเครื่องสังฆทานเพียบเลย แต่ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ทำให้เกิดความพอเพียง แต่ฟุ่มเฟือย

แม้แต่การทำอาหารไปทำบุญ ก็ยังแห่กันทำไปจนล้นวัด เฉพาะวันพระนะ วันอื่นพระอาจต้องฉันมาม่า

บ้างว่า ถวายเงินแล้ว เกรงว่าพระท่านจะใช้ผิดลู่ผิดทาง นี่ก็เป็นการให้แบบมีเงื่อนไขอีกแหละ มันจะได้บุญมั๊ย! แล้วก็เอาจิตใจเราไปประเมินคนอื่นได้อย่างไรว่าคนอื่นจะเหมือนเรา

บุญที่เหนือกว่าคือ ศีล มีการรัษาศีลจนเป็นปรกติ เกิดเป็นอินทรีย์สังวรกันหรือเปล่า

เหนือกว่าศีลก็เป็นภาวนา ทิ้งไว้แค่นี้แหละว่าภาวนาคืออะไร

ส่วนใหญ่แล้วพวกเราเป็นเพียงชาวพุทธตามระบุในบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านกันเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจแก่นแท้ของคำสอน มีแต่ไสยศาสตร์ หรือพึ่งพาสิ่งอื่นทั้งนั้น

แต่ละวงศตระกูลน่าจะมีสักคนคอยชักนำผู้คนในตระกูลให้กลับสู่ทิศทางที่ถูกต้อง