หน้าเว็บ

25 ธันวาคม 2553

จะโทษเขา หรือเพราะเรายอมเป็นเหยื่อ

สืบเนื่องมาจากการปรับทุกข์ของรุ่นพี่ว่าเดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่นั้นมาแรง เหลือเกิน หัวสมัยใหม่ พูดจาไม่มีมีสัมมาคารวะ ไม่เห็นความสำคัญความเก๋าและประสบการณ์ของรุ่นเก่าที่อยู่มานานกว่า 20 ปี แนวทางการบริหารจัดการดูเหมือนว่ามุทะลุดุดัน ไม่นึกถึงความเป็นคน เอาแต่จะได้อย่างเดียว
การระบายออกมาของรุ่นพี่ (ที่จริงก็ไม่ได้แก่กว่าผมซักเท่าไร) ดูจะมีแต่ความทุกข์ น้อยเนื้อต่ำใจกระไรปานนั้น


แต่เดี๋ยวก่อน พิจารณาด้วยความเป็นธรรมตามหลักการแล้ว ทำไมพี่จึงยอมตกเป็นเหยื่อเช่นนี้
เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือที่ทุกคนจะมีความคิดเห็น ความเชื่อ ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัญหาที่ทำให้พี่ต้องยอมจำนนหรือ อย่าเสียเวลาชอกช้ำบ่นกระปอดกระแปดเลย เอาเวลาไปหาหนทางที่จะสมานฉันท์ไม่ดีกว่าหรือ นั่นหมายถึงว่าพี่กำลังจะแปลงสภาพจากเหยื่อมาเป็นนักบริหารมืออาชีพนั่นเอง
พี่อาจจะหน้าแตกมามากกับเด็กรุ่นใหม่ ก็แล้วไงล่ะ หน้าแตกแล้วได้พิจารณาหรือไม่ว่าเพราะสาเหตุใด อย่าโทษเทวดาฟ้าดินนะ อย่าโทษดวงชะตา หรือโทษความแตกต่างทางด้านวัยวุฒิ ทำไมไม่ใช้ความเก๋าและประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์ แต่ก็ต้องเจือไปด้วยหลักการทางจิตวิทยาเกี่ยวกับการสื่อสารอย่างสันติ และอุปนิสัยแห่งการพึ่งพาอาศัยกัน รู้จักการประสานพลัง ยึดหลักการตามกรอบความคิดที่ว่า ถ้าไม่ชนะด้วยกันทั้งคู่เราก็ไม่ตกลง
แต่เราต้องเปิดใจเรียนรู้ความเป็นเด็กใหม่ แนวทางการบริหารแบบใหม่ๆ แล้วนำมาประสมประสานกับแบบเก่า ปรับให้เหมาะสมตามสถานการณ์ และไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นใครมาจากไหนก็สามารถจัดการได้ แม้ไม่สามารถจัดการได้ภายในครั้งสองครั้ง ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่ชีวิตยังมีก็ต้องแก้ปัญหาต่อไปจนกว่าจะตายหรือไม่ก็เลิกลาไปเสีย
ความคิดแค่ “ไม่สู้ก็หนี” เลิกคิดไปได้แล้วมั้ง ความจริงไม่เห็นต้องสู้และไม่เห็นต้องหนี เพียงแต่มีวาทศิลป์โน้มน้าวจูงใจคน หลอมรวมความคิดเห็นที่แตกต่างให้กลายเป็นข้อสรุปที่ดีกว่า ดูจะเป็นมืออาชีพกว่าไหม ประสานความแตกต่างให้สามารถไปในทิศทางเดียวกัน จะเกิดความคิดสร้างสรรค์กว่าไหม
คนเรามีทางเลือกเสมอ เมื่อเกิดสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้นที่ไม่พึงใจ จะเพียงแต่สู้หรือไม่ก็หนีหรือ นึกถึงว่า ทุกความแตกต่างทางความคิด ต่างมีจุดหมายร่วมกันคือความสำเร็จขององค์กร ของหน่วยงาน เด็กรุ่นใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ด้านการประสานงานหรอกครับ เราที่อยู่มานานต่างหาก เราเจอปัญหามามาก เราต่างหากที่เชี่ยวชาญในการประสานงาน ผสานความแตกต่าง เมื่อมีความเก๋ามีประสบการณ์ในงานสูง และรวมทั้งเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา มันน่าจะได้เปรียบเด็กใหม่ไม่ใช่หรือ
ทั้งหมดทั้งสิ้น จงเลือกที่จะประสานความแตกต่างให้กลายเป็นข้อสรุปที่ดีกว่า ด้วยหลักการที่ว่าถ้าไม่ชนะด้วยกันทั้งคู่ เราก็ไม่มีการตกลงใดๆ ทั้งสิ้น
ทางเลือกคือจะไม่หนี แต่มันเป็นการสู้หรือเปล่านั้นก็แล้วแต่ผู้คนจะตีความ หากคิดว่าเป็นการสู้ก็สู้แบบเหนือชั้นแห่งมืออาชีพ หากไม่ได้ตีความว่าสู้ เป็นเพียงแสดงความเข้าใจในตัวเขา แล้วทำให้เขาเข้าใจในความเป็นมาเป็นไปและสภาพความเป็นจริง จะเป็นการประสานพลังใช่ไหม นี่เรียกว่าไม่สู้และไม่หนีได้ไหม? แค่เพียงเป็นผู้มีความสามารถในการประสานพลังขั้นเทพ!!!

ไม่มีความคิดเห็น: