หน้าเว็บ

05 มิถุนายน 2554

ฝึกคน: สะท้อนภาพลักษณ์นักบริหาร

จากเกสีสูตรเมื่อครั้งที่แล้วที่พระพุทธองค์ตรัสอธิบายว่า “การฝึกวิธีละมุนละม่อมหมายถึง การชี้ให้เห็นสุจริตและผลแห่งสุจริต การฝึกอย่างรุนแรงหมายถึง การชี้ให้เห็นทุจริตและผลแห่งทุจริต การฆ่าในอริยวินัยก็คือ การไม่ว่ากล่าวตักเตือนอีกต่อไป” นั้น ในทางธรรมหมายถึงการฝึก การชี้แนะให้เข้าถึงธรรม บรรลุมรรคผลปรินิพพานนะครับ แต่ในเชิงบริหารแล้ว จะเพียงไม่ว่ากล่าวตักเตือนอีกต่อไปนั้น เห็นจะไม่ได้

 
เพราะว่าผลงานของทุกคนที่อยู่ในสังกัดเรา เราต้องรับผิดชอบ ใช่หรือไม่? ล้วนคือผลงานของเราใช่หรือไม่?
การที่เขาคนนั้นไม่เป็นไปตามที่องค์กรต้องการ ล้วนเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องจัดการ ใช่หรือไม่?
แล้วจะจัดการอย่างไร?
ก็แค่จัดการกันไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง หรือว่า หากไม่สามารถจัดการได้ก็เอามันออกไปซะ
คำถามคือ ต้องเอาออกเลยหรือ จริงๆ แล้ว หากว่าเราได้ให้ข้อมูลป้อนกลับเขาอย่างเหมาะสม แนะนำเขาด้วยดี ตกลงกันแล้วว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วยังไม่ทำตามตกลง ก็เห็นว่าจะอยู่ด่วยกันไม่ได้ เป็นมาตรการสุดท้ายจริงๆ แต่ไม่ใช่มาตรการต้นๆ เพราะเรามีความรักความเมตตาให้กับทุกคน ไม่ได้ใช่เพียงอารมณ์ความรู้สึก หรือเพราะความรักใคร่ เกลียดชิงชัง เพราะเราคือมืออาชีพไม่ใช่หรือ แต่เราสามารถเปลี่ยนคนได้มากน้อยเพียงใด
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถที่จะทำได้ ก่อนอื่นต้องเชื่อก่อนว่าพฤติกรรมคนนั้นสามารถเปลี่ยนได้ แล้วพัฒนาหนทางดำเนินการต่อไปไม่หยุดยั้ง วิธีแรกไม่ได้ผล ก็ไม่เป็นไร เราก็ใช้วิธีอื่นต่อไป เรียกว่าปรับเปลี่ยนดำเนินการต่อไปจนกว่าจะตายจากกัน หรือจากกันแบบไม่ต้องตาย
ปัญหามีเพียงว่า เมื่อจัดการสัก 2-3 วิธีแล้วไม่ได้ผลก็สรุปว่าเขาเป็นพวกบัวหินทับ ไม่สามารถหลุดพ้นโผล่ออกมาจากหินได้อีกแล้ว ขนาดนั้นเลยหรือ เรามีกรอบความคิดที่แน่นหนาเพียงพอหรือไม่ว่าคนทุกคนล้วนเป็นคนดี ทุกคนอยากเป็นคนดี ทุกคนล้วนต้องการประสบความสำเร็จ ทุกคนล้วนต้องการให้เป็นที่ยอมรับ ทุกคนอยากมีความสำคัญ (รวมทั้งตัวเราเองด้วย)
ช่วยเขาเถอะครับ ไม่เพียงช่วยเท่าที่จะช่วยได้ แต่จะช่วยจนกว่าจะตาย โดยพัฒนาวิธีการช่วยเหลือให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
นับเป็นการทำบุญทำกุศลที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าสร้างโบสถ์สร้างศาลาอีก เพราะเรากำลังสร้างคนให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม
แต่อย่าลืมพิจารณาด้วยว่า ตัวเราเองยังเป็นแม่ปูอยู่หรือเปล่า ถ้าเรายังเดินเป๋ไปเป๋มา แล้วจะสอนคนอื่นให้ตรงได้อย่างไร แปลว่าเราเองก็ต้องพัฒนาตัวเองก่อน และก่อนที่จะพัฒนาตนเองก็ต้องสำรวจตนเองก่อน การจะสำรวจตนเองให้ชัดเจน ก็ต้องเข้าใจเรื่องหลักการ เรื่องสัจธรรมก่อน ปรับตนเองให้สอดคล้อง ให้เป็นไปตามหลักการก่อน เมื่อเรายึดมั่นในหลักการอย่างเที่ยงแท้แน่นอนแล้ว ก็จะพบว่า เราจะสอนคนได้ง่าย และบางครั้งไม่ต้องสอนเลยนะท่าน เพราะพวกเขาจะเกิดศรัทธาและทำตามโดยปริยาย

ไม่มีความคิดเห็น: